วันเสาร์ที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

ICT


ความหมายของ ICT



  ICT ย่อมาจาก Information and Communication Technology หรือ เทคโนโลยีด้านข้อมูลข่าวสารและการติดต่อสื่อสาร ซึ่งมีความจำเป็นต่อชีวิตประจำวันทุกวันนี้อย่างยิ่ง 

                  I ย่อมาจากคำว่า Information แปลว่า ระบบสารสนเทศ หมายถึง ข้อมูลที่ผ่านการประมวลผล การประมวลผล เป็นการบวก ลบ คูณ หาร การจัดกลุ่ม การจัดจำพวก ฯลฯ สารสนเทศ เป็นข้อมูลที่ง่ายต่อการแปลความหมายทำความเข้าใจได้ง่าย ทำให้มีความเข้าใจตรงกัน
          C ย่อมาจากคำว่า Communication แปลว่า การสื่อสาร ซึ่งในปัจจุบันระบบสื่อสารการโทรคมนาคม ได้เชื่อมโยงประเทศต่าง ๆ ในโลกเข้าด้วยกัน ทำให้เกิดสังคมยุคไร้พรมแดน มนุษย์ซึ่งอยู่คนละซีกโลกสามารถติดต่อถึงกันโดยใช้เทคโนโลยีหลายรูปแบบเช่น อินเทอร์เน็ตก็เป็นเครื่องมือชนิดหนึ่งที่สามารถส่งผ่านข้อมูลได้เกือบทุกรูปแบบ

          T ย่อมาจากคำว่า Technology รวมคำ 2 คำคือ Technique หมายถึงวิธีการที่มีการพัฒนาและสามารถนำไปใช้ได้ และ Logic หมายถึงความมีเหตุผลที่เป็นที่ยอมรับ รวมกันหมายถึงวิธีการปฏิบัติที่มีการจัดลำดับอย่างมีรูปแบบและขั้นตอน เพื่อทำให้เกิดประสิทธิภาพในเรื่องความเร็วหรือ การประยุกต์ความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์มาใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์

          สรุป เทคโนโลยีสารสนเทศ (ICT) หมายถึง เทคโนโลยีทั้งหลาย (โดยมีเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ การสื่อสาร และเครือข่ายคอมพิวเตอร์ เป็นหลัก) ที่ทำหน้าที่ในการจัดการข้อมูล ได้แก่ การนำข้อมูลเข้า การประมวลผลข้อมูล ให้ได้ผลลัพธ์ที่เป็นประโยชน์ และเผยแพร่ต่อไปยังผู้บริโภค หรือผู้ใช้ ให้สามารถได้ใช้ผลผลิตนั้น อย่างถูกต้อง ทันเวลาและตรงกับความต้องการ

   



ความสำคัญของ ICT

      โดยพื้นฐานของเทคโนโลยีย่อมมีประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศชาติให้เจริญก้าวหน้าได้ แต่เทคโนโลยีสารสนเทศเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับวิถีความเป็นอยู่ของสังคมสมัยใหม่อยู่มาก ลักษณะเด่นที่สำคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศมีดังนี้
  • · เทคโนโลยีสารสนเทศช่วยเพิ่มผลผลิต ลดต้นทุน และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ในการประกอบการทางด้านเศรษฐกิจ การค้า และการอุตสาหกรรม จำเป็นต้องหาวิธีในการเพิ่มผลผลิต ลดต้นทุน และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานคอมพิวเตอร์และระบบสื่อสารเข้ามาช่วยทำให้เกิดระบบอัตโนมัติ เราสามารถฝากถอนเงินสดผ่านเครื่องเอทีเอ็มได้ตลอดเวลา ธนาคารสามารถให้บริการได้ดีขึ้น ทำให้การบริการโดยรวมมีประสิทธิภาพ ในระบบการจัดการทุกแห่งต้องใช้ข้อมูลเพื่อการดำเนินการและการตัดสินใจ ระบบธุรกิจจึงใช้เครื่องมือเหล่านี้ช่วยในการทำงาน เช่น ใช้ในระบบจัดเก็บเงินสด จองตั๋วเครื่องบิน เป็นต้น
  • เทคโนโลยีสารสนเทศเปลี่ยนรูปแบบการบริการเป็นแบบกระจาย เมื่อมีการพัฒนาระบบข้อมูล และการใช้ข้อมูลได้ดี การบริการต่าง ๆ จึงเน้นรูปแบบการบริการแบบกระจาย ผู้ใช้สามารถสั่งซื้อสินค้าจากที่บ้าน สามารถสอบถามข้อมูลผ่านทางโทรศัพท์ นิสิตนักศึกษาบางมหาวิทยาลัยสามารถใช้คอมพิวเตอร์สอบถามผลสอบจากที่บ้านได้
  • เทคโนโลยีสารสนเทศเป็นสิ่งที่จำเป็น สำหรับการดำเนินการในหน่วยงานต่าง ๆ ปัจจุบันทุกหน่วยงานต่างพัฒนาระบบรวบรวมจัดเก็บข้อมูลเพื่อใช้ในองค์การประเทศไทยมีระบบทะเบียนราษฎร์ที่จัดทำด้วยระบบ ระบบเวชระเบียนในโรงพยาบาล ระบบการจัดเก็บข้อมูลภาษี ในองค์การทุกระดับเห็นความสำคัญที่จะนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้
  • เทคโนโลยีสารสนเทศเกี่ยวข้องกับคนทุกระดับ พัฒนาการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของคนเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี ดังจะเห็นได้จาก การพิมพ์ด้วยคอมพิวเตอร์ การใช้ตารางคำนวณ และใช้อุปกรณ์สื่อสารโทรคมนาคมแบบต่าง ๆ เป็นต้น


ประโยชน์ของ ICT ต่อองค์กร        


1.มีความสะดวกรวดเร็วในระหว่างการดำเนินงาน
2.ลดปริมาณผู้ดำเนินงาน และประหยัดพลังงานเชื้อเพลิงได้อีกทางหนึ่ง
3.ระบบการปฏิบัติงานเป็นไปอย่างมีระเบียบมากขึ้น
4.ลดข้อผิดพลาดของเอกสารในระหว่างการดำเนินการได้
5.สร้างความโปร่งใสให้กับหน่วยงานหรือองค์กรได้
6.ลดปริมาณเอกสาร (กระดาษ) ในระหว่างการดำเนินงานได้มาก
7.ลดขั้นตอนในระหว่างการดำเนินการได้มาก 8.ประหยัดเนื้อที่จัดเก็บเอกสาร (กระดาษ) 
และหากใช้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดจะเกิดข้อดีคือ
  1.เป็นเครื่องมือจัดการเอกสารและข้อมูลต่างๆ ที่องค์กรต้องใช้ เช่น ระบบการจัดการฐานข้อมูล (RDBMS) ซึ่งเป็นโปรแกรมที่ช่วยควบคุมและจัดการข้อมูลบนหน่วยความจำสำรอง สามารถสร้าง บำรุงรักษาและเข้าถึงฐานข้อมูลสัมพันธ์ได้
  2.เป็นเครื่องมือเพื่อการประยุกต์ใช้ เช่น ใช้จัดทำฐานข้อมูล (Database) และคลังข้อมูลขนาดใหญ่ (Data Warehouse) เป็นเครื่องมือประมวลผลข้อมูลในรูปแบบต่างๆ เช่น ระบบ DSS, ระบบ MIS เป็นเครื่องมือปฏิบัติงานกับเอกสารเพื่อลดการใช้และการจัดเก็บกระดาษด้วยระบบ Document Management System, ระบบประชุมทางไกล 
  3.เป็นเครื่องมือสื่อสารประชาสัมพันธ์ด้วยระบบอินเตอร์เน็ต อินตราเน็ต (Intranet) เอ็กซตราเน็ต (Extranet) และเวิลด์ไวด์เว็บ (World Wide Web) เป็นต้น

ข้อเสียของ ICT

  ภัยจากคนแปลกหน้า หรือ บุคคลเสมือน บางทีเด็กหญิงที่เราเจอในแช็ทรูม ที่จริงอาจเป็นชายวัยกลางคนที่เข้ามาพูดคุย สร้างภาพเพื่อหลอกให้ตายใจ หวังล่อลวงนัดพบ และเมื่อออกไปเจอเขาก็อาจถูกล่วงเกินหรือทำร้าย มิจจาชีพกลุ่มหนึ่งทำเว็บไซต์ปลอมหลอกให้เรากรอกข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ ที่อยู่ เบอร์ติดต่อ เลขรหัสบัตรเครดิต แล้วนำไปใช้แอบอ้างเป็นตัวเรา  

ภัยจากเนื้อหาต้องห้ามเพราะ อินเตอร์เน็ต เป็นแหล่งรวมเนื้อหา ข้อมูล รูปภาพ ความคิดเห็นนานาจากผู้คนทั่วโลก จึงไม่น่าแปลกใจที่จะมีทั้งข้อมูลที่สร้างสรรค์เป็นประโยชน์และข้อมูลที่เป็นอันตราย เช่น มีการเผยแพร่ สิ่งพิมพ์รูปภาพ หรือโฆษณาวัตถุลามก อนาจาร ผิดกฎหมาย หมิ่นประมาท ยุยงก่อให้เกิดความแตกแยกในสังคม เนื้อหารุนแรงเกลียดชัง บ่อนทำลาย ผิดศีลธรรม เนื้อหาทางเพศโจ่งแจ้ง บางส่วนเป็นเพียงความ คิดเห็นส่วนตัวที่เอนเอียง บางส่วนไม่ใช่ความจริง  ผู้อ่านจึงต้องรู้เท่าทันสิ่งที่อ่านหรือรับข้อมูลบนโลกอินเทอร์เน็ต  

ภัยจากการใช้งานไม่เหมาะสมอื่นๆ
 ไวรัสคอมพิวเตอร์แพร่ระบาดได้ง่ายผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตโดยผู้ใช้ที่ขาดความรู้และความระมัดระวังได้กระจายตัวอย่างรวดเร็วและสร้างความเสียหายได้คราวละมาก ๆ นอกจากนี้ ยังมีผู้ไม่ประสงค์ดีทำการบุกรุกเครือข่ายเพื่อขโมยข้อมูล แก้ไขข้อมูล เพื่อประโยชน์ส่วนตัว ทำการโจมตีให้ระบบล่ม ภัยจากโลกไซเบอร์ที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งได้แก่ การที่เด็กและเยาวชนใช้เวลามากเกินไป บนโลกออนไลน์ทำให้ขาดปฏิสัมพันธ์กับคนรอบข้าง ละเลยต่อการเรียนหรือกิจกรรมกลางแจ้งในโลกปกติ ทำให้เสียสุขภาพและขาดทักษะการเรียนรู้ทางสังคมอินเทอร์เน็ต ในประเทศไทยมีอัตราค่าบริการค่อนข้างสูง ช่องทางในการสื่อสารข้อมูลคุณภาพต่ำ วงจรสื่อสารความเร็วสูงยังไม่แพร่หลาย  ความปลอดภัยในการส่งข่าวสารข้อมูลทางอินเทอร์เน็ตมีน้อย ซึ่งจะเห็นได้จากกระทรวงทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารได้ประกาศห้ามข้าราชการใช้อินเทอร์ เน็ตของเอกชนส่งข่าวสารข้อมูลโดยกำหนดระยะเวลาให้งดใช้ ตั้งแต่ระดับ 8 ขึ้นไปนับตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2551 เป็นต้นไป ส่วนข้าราชการตั้งแต่ระดับ 7 ลงมาให้เลิกใช้ภายในระยะเวลา 1 ปี (ประกาศ สำนักงานปลัดกระทรวง) 

การประยุกต์ใช้ ICT ในองค์กร




  อบต.ยางม่วง ใช้ ICT  มาประยุกต์ใช้ในการบริหารองค์กร กล่าวคือ มีการนำโปรแกรมการจัดการฐานข้อมูล มาใช้ในการเก็บข้อมูลบุคลากร มีการใช้อินเตอร์เน็ตในการรับรู้ข้อมูล หรือแลกเปลี่ยนข้อมูล  มีการใช้ E-Auction ในการจัดซื้อจัดจ้าง  นอกจากนี้  ยังนำคอมพิวเตอร์มาช่วยในการเตือนความจำ และจัดเก็บข้อมูลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลพื้นฐาน หรือข้อมูลต่างๆ  เพื่อช่วยในการตัดสินใจ

ความคิดเห็นต่อ ICT


เทคโนโลยีสารสนเทศมีผลเกี่ยวข้องกับทุกเรื่องในชีวิตประจำวัน บทบาทเหล่านี้มีแนวโน้มที่สำคัญมากยิ่งขึ้น ด้วยเหตุนี้เยาวชนคนรุ่นใหม่จึงควรเรียนรู้ และเข้าใจเกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อจะได้เป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศให้ก้าวหน้าและเกิดประโยชน์ต่อประเทศต่อไป


บรรณานุกรม

http://eclassnet.kku.ac.th/etraining/file/1089782014-nutruja%20answer_5.doc 
http://learners.in.th/blog/myfirst13/167962
http://pood67.multiply.com/journal/item/9/9?&show_interstitial=1&u=%2Fjournal%2Fitem
http://kitsakonict.igetweb.com/index.php?mo=3&art=486415